ป้ายกำกับ: ทรงผมชาย 2023

ทรงผมชาย 2023 : เทรนด์เท่ห์ เทรนด์ฮิต ที่คุณต้องลอง!

อยากรู้ไหมว่าทรงผมชายแบบไหนกำลังมาแรงในปี 2023? ไม่ว่าคุณจะเป็นหนุ่มสายสปอร์ต สายเท่ หรือสายหวาน บทความนี้มีคำตอบให้คุณ!

ปี 2023 เป็นปีที่เทรนด์ทรงผมชายพลิกโฉมไปมาก มีทั้งทรงคลาสสิก ทรงโมเดิร์น และทรงแปลกใหม่ แต่ละทรงล้วนสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้ชายในยุคนี้ได้อย่างชัดเจน

ทรงผมชาย 2023 : เทรนด์ฮิต ที่ไม่ควรพลาด!

1. ทรงผมสไตล์ Undercut

ทรง Undercut เป็นทรงที่ได้รับความนิยมมาตลอด และในปี 2023 ยังคงเป็นที่นิยม ด้วยความเท่ และความหลากหลาย สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์ของแต่ละคน โดยส่วนบนของศีรษะจะตัดให้ยาว และส่วนข้างจะตัดสั้น

ข้อดี :

  • ให้ลุคเท่ ทันสมัย และดูเป็นคนมีสไตล์
  • ง่ายต่อการดูแล และจัดแต่งทรง
  • เหมาะกับทุกสภาพเส้นผม

ตัวอย่าง : ทรง Undercut แบบ Side Part , ทรง Undercut แบบ Quiff , ทรง Undercut แบบ Pompadour

2. ทรงผมสไตล์ Pompadour

ทรง Pompadour เป็นทรงคลาสสิกที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ในปี 2023 ทรง Pompadour ได้ถูกนำมาปรับแต่งให้ดูทันสมัย ด้วยการตัดให้สั้น และจัดแต่งทรงให้ดูไม่เรียบเกินไป

ข้อดี :

  • ให้ลุคเท่ ดูดี และมีความมั่นใจ
  • เหมาะกับผู้ชายที่มีใบหน้ารูปไข่ หรือรูปหัวใจ

ตัวอย่าง : ทรง Pompadour แบบ High , ทรง Pompadour แบบ Low , ทรง Pompadour แบบ Slick Back

3. ทรงผมสไตล์ Slick Back

ทรง Slick Back เป็นทรงที่ดูเรียบ และดูดี เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการทรงผมที่ดูเป็นทางการ

ข้อดี :

  • ง่ายต่อการดูแล และจัดแต่งทรง
  • เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม

ตัวอย่าง : ทรง Slick Back แบบ Classic , ทรง Slick Back แบบ Modern , ทรง Slick Back แบบ Wet Look

4. ทรงผมสไตล์ Fade

ทรง Fade เป็นทรงที่ตัดให้ผมด้านข้าง และด้านหลังสั้นลงเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เกือบจะเหมือนกับหนังศีรษะ

ข้อดี :

  • ให้ลุคสปอร์ต และดูเท่
  • เหมาะกับผู้ชายที่มีใบหน้ารูปไข่ หรือรูปหัวใจ

ตัวอย่าง : ทรง Fade แบบ Low , ทรง Fade แบบ Mid , ทรง Fade แบบ High

5. ทรงผมสไตล์ Buzz Cut

ทรง Buzz Cut เป็นทรงที่ตัดให้ผมสั้น และใกล้กับหนังศีรษะ

ข้อดี :

  • ง่ายต่อการดูแล และจัดแต่งทรง
  • เหมาะกับผู้ชายที่มีรูปหน้ากลม หรือรูปหน้าสี่เหลี่ยม

ตัดผมวันไหนดี? 2567 : คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ!

ตัดผมวันไหนดี? คำถามนี้เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะผู้ชาย ที่ต้องการตัดผมให้ดูดี และเป็นมงคล

ในทางโหราศาสตร์ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการตัดผม โดยเฉพาะวันตัดผม ที่ส่งผลต่อชีวิต และโชคลาภ

  • วันจันทร์ : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเสริมความคิดสร้างสรรค์ และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  • วันอังคาร : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และเสริมดวงด้านความรัก
  • วันพุธ : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเสริมโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรือง
  • วันพฤหัสบดี : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเพิ่มความสุข และความรื่นรมย์
  • วันศุกร์ : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเสริมความงาม และเสน่ห์
  • วันเสาร์ : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อผ่อนคลาย และลดความเครียด
  • วันอาทิตย์ : เหมาะสำหรับการตัดผมเพื่อเพิ่มความสุข และความราบรื่น ในชีวิต

ทรงผมชาย 2023 : เลือกให้เหมาะกับรูปหน้า!

ทรงผมชาย ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่ควรเลือกให้เหมาะกับรูปหน้า

  • รูปหน้ากลม : ควรเลือกทรงผมที่มีความสูง และมีส่วนข้างที่ตัดให้สั้นลง เพื่อให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น
  • รูปหน้ายาว : ควรเลือกทรงผมที่มีความยาวปานกลาง และมีส่วนข้างที่ตัดให้สั้นลง เพื่อให้ใบหน้าดูสั้นลง
  • รูปหน้าสี่เหลี่ยม : ควรเลือกทรงผมที่มีความยาวปานกลาง และมีส่วนข้างที่ตัดให้สั้นลง เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนโยน
  • รูปหน้ารูปไข่ : เหมาะกับทุกทรงผม

ทรงผมชาย 2023 : วิธีการจัดแต่งทรง!

ทรงผมชาย ส่วนใหญ่ ต้องอาศัยการจัดแต่งทรง เพื่อให้ดูดี และเป็นทรง

  • ใช้เจลจัดแต่งทรง : เพื่อจัดแต่งทรงให้เรียบ และดูเป็นทางการ
  • ใช้แว็กซ์จัดแต่งทรง : เพื่อจัดแต่งทรงให้ดูเป็นธรรมชาติ และมีวอลลุ่ม
  • ใช้สเปรย์จัดแต่งทรง : เพื่อจัดแต่งทรงให้คงรูป และช่วยให้ทรงอยู่ทรง

สรุป!

ทรงผมชาย 2023 เป็นปีแห่งการทดลอง และการแสดงออก ไม่ว่าคุณจะเลือกทรงไหน ก็ควรเลือกทรงที่เหมาะกับ รูปหน้า สไตล์ และบุคลิกของคุณ

อย่าลืม การตัดผมเป็นเหมือนการเปลี่ยนแปลง และการเริ่มต้นใหม่ ดังนั้น ลองตัดผม และเลือกทรงผม ที่ทำให้คุณรู้สึกมั่นใจ และมีความสุข!

ทรงผมชาย 2023, ทรงผมผู้ชาย 2023, เทรนด์ทรงผมชาย, ทรงผมผู้ชาย , ทรงผมชาย 2023 เทรนด์

Load More