ป้ายกำกับ: แฟชั่นผมผู้ชาย
แฟชั่นผมผู้ชาย: เทรนด์ทรงผมฮิต 2567
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคนตัดผมทรงเดียวกัน แต่ดูดีกว่าเรา? หรืออยากลองเปลี่ยนทรงผมดูบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง? บอกเลยว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียว! หลายคนกำลังตามหาทรงผมที่เหมาะกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้า ไลฟ์สไตล์ หรือความชอบส่วนตัว และ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ พาคุณไปเจาะลึกแฟชั่นผมผู้ชาย เทรนด์ทรงผมฮิตในปี 2567 พร้อมเคล็ดลับการเลือกทรงผมที่ใช่
ตัดผมทรงไหนดี?
ตัดผมทรงไหนดี ขึ้นอยู่กับ รูปหน้า ของคุณเป็นหลัก
รูปหน้ากลม: ทรงผมที่ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวยาวขึ้น เช่น ทรง Side Part หรือ Undercut ที่ช่วยพรางความกลม
รูปหน้ายาว: ทรงผมที่ช่วยให้ใบหน้าดูสั้นลง เช่น ทรง Layer หรือทรง Side Part
รูปหน้าเหลี่ยม: ทรงผมที่ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนลง เช่น ทรง Fringe หรือทรง Pompadour
รูปหน้ารูปไข่: โชคดี! รูปหน้าแบบนี้ตัดทรงไหนก็ดูดี
เทรนด์ทรงผมผู้ชายฮิต 2567
1. ทรง Undercut: ทรงนี้ เป็นทรงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงมาแรงในปี 2567 ด้วยความเท่ ดูเทรนดี้ และปรับแต่งได้ง่าย
2. ทรง Side Part: ทรงนี้เหมาะกับผู้ชายทุกสไตล์ ทั้งแบบเรียบหรู เท่ หรือ สปอร์ต สามารถเซตได้หลายแบบ
3. ทรง Pompadour: ทรงนี้ เหมาะกับผู้ชายที่ชอบความเท่ ดูมีสไตล์ ทรงนี้ ต้องใช้เวลาเซต แต่ผลลัพธ์ คุ้มค่าแน่นอน
4. ทรง Layer: ทรงนี้ ช่วยให้ผมดูมีมิติ และดูหนาขึ้น เหมาะกับผู้ชายที่มีผมบาง หรือ ผมหยิก
5. ทรง Fringe: ทรงนี้ เหมาะกับผู้ชายที่ชอบความเท่ แบบสบาย ๆ และ ดูเป็นธรรมชาติ
เคล็ดลับการเลือกทรงผม
- ปรึกษาช่างตัดผม : ช่างตัดผมมืออาชีพ สามารถแนะนำทรงผมที่เหมาะกับ รูปหน้า และ ไลฟ์สไตล์ ของคุณ
- ลองเซตทรงผมที่ต้องการ : ก่อนตัดผม ลองเซตทรงผมที่ต้องการ เพื่อดูว่า เหมาะกับตัวเองหรือไม่
- ดูแลเส้นผมให้ดี : การดูแลเส้นผม เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผมสวย และ อยู่ทรง
สรุป
แฟชั่นผมผู้ชาย มีหลากหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับ รูปหน้า ไลฟ์สไตล์ และ ความชอบส่วนตัว การเลือกทรงผม จึงสำคัญ อย่าลืม ปรึกษาช่างตัดผม และ ลองเซตทรงผมที่ต้องการ ก่อนตัดผม เพื่อให้ มั่นใจ ว่า ทรงผมที่เลือก เหมาะกับตัวเอง มากที่สุด
คำสำคัญ: แฟชั่นผมผู้ชาย, ทรงผม, รูปหน้า, เทรนด์ผม, ตัดผม, สไตล์ผม, เคล็ดลับการเลือกทรงผม